1.ใช้เงินมากเพราะอยากรีบกำไรไฟแรง หลายคนก็คงเคยได้ยิน”ให้ใช้เงินที่คิดว่าเราเสียได้นะ” แต่เชื่อเถอะว่ามือใหม่ช่วงแรกก็ไม่เข้าใจ เพราะตอนเทรดกับกระดาษมันง่ายแสนง่าย คิดแต่อย่างเดียวว่าถ้าเทรดจริงฉันกำไรแน่ความเป็นจริงที่อยากจะบอกคือ “เงินก้อนแรกที่นำเข้าไปเทรดยังไงก็เสีย” 100คนอาจจะมีแค่ไม่ถึง2คนที่อาจจะเท่าทุน บางคนอาจจะกำไรแต่สุดท้ายก้คืน เพราะการเทรดอาศัยทักษะเฉพาะโดยเฉพาะในเรื่อง “การควบคุมจิตใจ” อารมณ์แบบคนไม่เคยขับจักรยานยังไงก็ล้ม บางคนอาจจะคิดว่า ตัวเองทำไม่ได้แล้วมาพูดแบบนี้รึป่าว คนกำไรตั้งแต่เดือนแรกเยอะแยะ ใช่ครับ แต่สุดท้ายเค้าก็รักษากำไรไว้ไม่ได้
2.ไปเทรดสั้นมากๆเพราะคิดว่ากำไรเยอะกว่า กำไรเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักลงทุน นักเทรดอยู่แล้ว หลายคนที่เข้ามาตลาดมักถูกแนะนำให้เทรดสั้นๆมากๆเพราะอาจจะได้รับสื่อการตลาดจากโบรคเกอร์ เพราะเทรดสั้นเทรดบ่อยแน่นอนว่าโบรคก็จะได้ค่าคอมมากตามไปด้วย ผมเคยเทรดสั้นขนาดวันนึงเข้าออเดอร์มากกว่า10 20ครั้ง ซึ่งไม่ได้บอกว่าการเทรดสั้นมากๆไม่ดี อันนี้แล้วแต่คนชอบ แต่ผมถามกลับว่า ถ้าเฝ้าหน้าจอวันละ6ชม vsกับอาทิตนึงเทรดสองครั้ง กำไรเดือนละ10 20%เท่ากันเราจะเลือกอะไร เพราะฉะนั้นสายscalpingส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่ชอบในการเทรดไม่ก็พวกสายprop trade ซึ่งในระยะสั้นบางทีอาจจะดูเหมือนกำไรมากกว่าแต่บวกลบคูณหารบางทีน้อยกว่าด้วย เพราะสุดท้ายการจะกำไรมากน้อยอยู่ที่การวาง position ด้วยเป็นหลัก
3.ไปศึกษาindicatorมากไปมากกว่าศึกษาราคา ไม่รู้ใครเป็นรึป่าว ส่วนตัวตอนเริ่มชอบได้ยินคนถามว่าใช้อินดี้อะไร สองอินดี้สุดฮิตที่ได้ยินบ่อยๆคือ macd กับ rsi แล้วเราก็คิดว่าถ้าอยากกำไร ต้องไปศึกษาอินดี้เยอะๆ ต้องรู้ทุกindicatorความจริงก็คือถ้าเราไม่เข้าใจprice pattern อินดี้ก็แทบไม่ได้ช่วยไร สมัยแรกๆนั่งมองmacd ถ้าตัดขึ้นซื้อ แล้วก็คิดว่าทำไมทุกตัวที่ขึ้นมันตัดหมด จริงๆแล้วทุกตัวที่ตัดอาจจะไม่ขึ้นก้ได้ เพราะถ้าตลาดเป็นเทรน ยังไงมันก็ตัด ดูกี่ตัวมันก็ตัดขึ้น พอเริ่มมีประสบการณ์เราถึงรู้ว่าแก่นคือเราต้องดูราคา ดูpatternของราคา dowtheoryเป็นรากฐานที่สุดแล้ว แล้วค่อยจับอินดี้สักสองตัวสามตัวมาช่วยการมอง
4.วันไหนกำไรดีใจทั้งวันวันไหนขาดทุนซึมทั้งวัน การเทรดไม่ได้เหนื่อยที่กาย มันเหนื่อยใจ ถ้าบริหารวิธีคิดไม่ดี เทรดแล้วชีวิตจะไม่มีความสุข วันไหนกำไรใจก้ฟู วันไหนขาดทุนก็เหี่ยว เป็นแบบนี้สักพักเลยถามตัวเองว่าเราจะเป็นแบบนี้เรื่อยๆหรอ เพราะการเป็นเทรดเดอร์เราต้องเจอการขาดทุนสลับกำไรเป็นปกติ การแก้คือวางใจกลางๆ คิดว่าเสียตั้งแต่เริ่มเทรดแล้วทำใจ การเทรดจะสบายใจขึ้นมาก ไม่เหนื่อย พอเราเฉยๆกับกำไร พอขาดทุนก็จะเฉยๆ ไม่เป็นแบบว่าเทรดเสร็จหลายชั่วโมงแต่ยังซึมแบบนี้ทำให้เสียพลังงานเยอะมาก realizedปุ้ป รู้สึกได้15นาทีละลืมไม่ต้องไปคิดแล้ว แบบนี้จะไม่เหนื่อย
5.เปลี่ยนตลาดเปลี่ยนproductไปๆมาๆ การเทรดหลายตลาดไม่ใช่ไม่ดี แต่ในช่วงเริ่มต้องโฟกัสที่ตลาดเดียว tradesetupเดียว ส่วนตัวและหลายคนเสียเวลากับตรงนี้มาก พอขาดทุนก็ไปหาตลาดที่ช่วงนี้กำไร พอตลาดนี้ไม่วิ่งก็ไปหาตลาดที่ช่วงนี้วิ่ง สิ่งนึงเลยที่เราจะขาดคือ เราจะขาดความเข้าใจนิสัยและแต่ละสภาวะของตลาดนั้นๆ เช่นเวลาไม่วิ่งเป็นไง เวลาเป็นเทรนเป็นยังไง เพราะเอาจริงๆทุกตลาดมันก็มีช่วงของมัน มีช่วงยากช่วงง่ายสลับวนเวียนกันนไป
อย่างไรก็ตามสุดท้ายทุกอย่างก็คือบทเรียนที่ทำให้เราเก่งขึ้น
