1.เวลาราคาไปไม่ถึงเกือบถึงเลยไม่ได้ขายไม่matchขาย (regret)
มือใหม่จะมีความคิดว่า รู้งี้ตั้งราคาขายเร็วหน่อย รู้งี้ขายก่อนแล้ว การคิดแบบนี้มันเกิดมาจากอารมณ์ความเสียดาย ทำให้ครั้งต่อๆไปมีแนว โน้มที่เราจะเลื่อนราคาขาย ทำให้risk reward มันไม่คุ้ม คนมีประสบการณ์เค้าจะมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ราคาอาจจะถึง อาจจะเกิน หรืออาจจะขาดก้ได้เป็นเรื่องปกติมากที่เทรดเดอร์ทุกคนเจอประเด็นให้คิดว่าเมื่อเสี่ยเบ็ดไปแล้ว ถูกทางแล้ว ต้องให้ได้เต็มเม็ดเพื่อมาเจ๊ากับไม้ที่ขาดทุน ไม่เช่นนั้นเวลาเสียเราเสียเป้ะๆหรือมากกว่า แต่เวลาได้กลับได้
2.เวลาตั้งซื้อแต่ราคาไม่ลงมาmatchแล้วดีดขึ้นไปเลย(ตกรถ)
มือใหม่จะเสียดายแล้วไปไล่ราคาซื้อตอนแพงพฤติกรรมนี้มือใหม่เป็นกันมาก เพราะเสียดายที่ตกรถให้เข้าใจแบบนี้ว่า ทุกๆการเทรดเราไม่มีทางรู้ว่าราคาจะลงมาถึงที่เราตั้งซื้อ หรือจะลงมาเกิน บางครั้งถ้าถึงก็ดีไป บางครั้งถ้าไม่ถึงก็ตกรถไปเป็นธรรมดา เพราะบางครั้งราคาก็ลงไปมากจนเกือบกินstopเรา ถ้าเราไปรับเร็วเราอาจจะโดนstopแล้ว เพราะฉะนั้นมุมมองสำคัญ ถ้าตกรถกชั่งมัน โอกาสมีอีกเยอะ การรอจังหวะเป็นเรื่องสำคัญอย่าใจร้อน
3.วางแผนไว้ดิบดีสุดท้ายไปดูข่าวไปเชื่อข่าวเทรดอีกทางขาดทุนแล้วบอกว่ารู้งี้ไม่น่าเชื่อ (bias)
ส่วนตัวผมข้ามผ่านmindsetนี้จากการที่ตามหลายๆโค้ชแล้วจด เมื่อคุณเทรดไปสักพักคุณจะรู้ว่า ไม่มีโค้ชหรือกูรูคนไหนแม่นจริง การเทรดไม่ใช่ต้องแม่น กูรูหลายคนก้ผิด 10ครั้งอาจจะถูกทาง6ผิด4 การเทรดไม่ได้เล่นกับความแม่นอย่างเดียว เทรดเดอร์ระดับโลกwinrateก้ประมาณ 50% 60%ในกรณีที่กลยุทย์r2:1 3:1 แค่เพจส่วนมากเวลาผิดไม่ได้เอามาโพส ให้เชื่อมั่นในแผนตัวเอง แล้วหลักสถิติจะทำงานเอง มีหลายครั้งที่โค้ชมองผิด แต่เรามองถูก เพราะฉะนั้นบอกไว้เลยว่าไม่มีใครรู้ทิศทางจริงๆ ทุกอย่างมันคือหลักความน่าจะเป็น ยึดในหลักการที่เราเชื่อว่ามันจะกำไรได้ แล้วทำตาม อย่าเชื่อข่าวมากนัก เพราะจะทำให้เราติดbias โลเลไปมา ตราบใดที่เราเข้าใจระบบของเรา จงเชื่อมั่นในตัวเรามากกว่าคนอื่นๆ
4.ขายแล้วราคาไปต่ออีกเยอะ (ขายหมู)
คนใหม่ๆอาจจะเสียดายเพราะโลภ แล้วคิดว่าครั้งต่อไปเดี๋ยวจะขายช้า ปรากฎว่าครั้งต่อไปตั้งไว้ไม่matchราคาไปไม่ถึงเพราะโลภ การขายหมูเป็นเรื่องปกติมากๆ คล้ายๆกับอาชีพเซลล์แมนขายของแล้วเจอคนปฏิเสธ มันอยู่ที่ทัศนคติคุณว่า ดีจังคุณกำไรแล้วดีกว่าขาดทุน หรือ คุณรู้สึกแย่เสียดายที่ไม่ได้มากกว่านั้น หลายกลยุทย์สามารถยืดหยุ่นแบ่งขายได้แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของแผนและไม่ใช้อารมณ์ไม่ใช่อยู่ดีๆ โลภอยากได้มากคิดไปเองว่าครั้งนี้จะไปไกลเลยไม่ทำตามแผน หน้าที่ของเทรดเดอร์คือเข้าแล้ววางstopวางเทคกำไร เมื่อราคาไปเลยก้เป็นเรื่องของตลาดไม่ใช่เรื่องของเรา เพราะความเป็นจริงบางครั้งคุณก็อาจจะขายปุ้ปราคาลงปั่ป คืณก้จะรู้สึกโชคดีที่ขาย แต่บางครั้งราคาก็ไปเลยจนเรารู้สึกเสียดายสุดท้ายแล้วให้เรายึดตามแผน เพราะการเทรดคือการเล่นกับความน่าจะเป็น ไม่มีอะไร 100%
5.เวลาเทรดขาดทุนสามสี่ครั้งติด (big drawdown)
ใครติดเรืองนี้ให้ไปดูพอร์ตเทรดเดอร์ระดับโลก ในเว็ปเทรดออนไลน์มากมาย คนที่สามารถทำกำไรปีละ100%+ เราจะเห็นว่าเกือบทุกคนมีช่วงdrawdownหรือช่วงที่ขาดทุนติดๆ คนที่เป็นมือใหม่จะเริ่มกระวนกระวาย เริ่มหาวิธีต่างๆ เริ่มไม่เชื่อมั่นในสถิติแผนที่เรามี คนที่มีประสบการณ์จะมองเป็นเรื่องธรรมดา(ตราบใดที่วางหน้าตักไว้ดีสามารถเสียติด3 4ครั้งแล้วคืนมาได้) คนที่มีทัศนคติว่าเป็นธรรมดาก็จะผ่านไปได้ ส่วนคนที่กระวนกระวายก้จะเกิดการอยากเอาคืนเป็นต้นเหตุของการovertradeและsystemshift ปัจจัยอีกอย่างที่ควรรู้คือถ้าเกิดอาการdrawdownมากๆ สิ่งนึงที่ควรสังเกตคือ กลยุทย์และสภาวะตลาด ต้องเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกกลยุทย์จะทำกำไรได้ดีในทุกสภาวะ ให้ลองสังเกตและปรับปรุงว่าแต่ละกลยุทย์ใช้ได้ดีในช่วงไหนและใช้ได้ไม่ดีในช่วงไหน
6.เวลากำไรเขียวในพอร์ตแล้วแต่ยังไม่realized พคืนทุนนิดหน่อยทนไม่ได้เลยขายหมด(expectation)
หลายคนไปมองตัวเลขกำไรที่ยังไม่ได้ขาย ไปติดกับดัก พอราคาขึ้นไปแล้วกลับมาที่ทุนทนไม่ได้ เสียดายกลัวโดนstopเลยออก ตราบใดที่ยังไม่ขายห้ามคิดว่ากำไรแล้วเด็ดขาด ทริคคือทุกๆครั้งของการเทรดให้คิดว่าเราเสียเบ็ด คือเสียไปเลย การคิดแบบนี้เราจะรู้สึกเท่าทุนไม่ก็กำไรเท่านั้น เมื่อราคาวิ่งขึ้นไปให้เห็นเฉยๆและจินตนาการแค่ขาดทุนเท่านั้น จนกว่าจะขายออกกำไร ให้คิดแค่สองฝั่ง คือ ขาดทุนและกำไร ไม่หวั่นไหวกับการเหวี่ยงของราคาในระหว่างทาง ให้ดีอย่าเปิดดูบ่อยจะทำได้ง่ายขึ้น อาจจะเสริมก็คือถ้าราคาไปถึงเป้าแรกให้ออกครึ่งนึง ไปครึ่งทางให้เลื่อนรtopมาที่ทุนเป็นต้นอันนี้แล้วแต่ของแต่ละคน อีกวิธีคือที่จะทำให้เราหวั่นไหวกับความผันผวนน้อยลงคือไปหาอะไรทำ เช่นดูหนัง ฟังเพลง ถ้าไม่ได้รcalpingหรือเทรดในtเล็กมากๆไม่ควรไปนั่งเฝ้าจอเพราะจะเสียพลังงานมาก (ที่สำคัญก่อนไปทำอย่างอื่นวางstopและtด้วยและอาจจะเช็คทุกๆกี่นาทีกี่วันก้ว่าไปแล้วแต่tที่เราเทรด
7.ลงมากินstopแล้วขึ้นทันที(โมโห)
เป็นสถานะการณ์ที่น่าโมโหมาก หลายคนจะเบิ้ลpositionเพื่อเอาคืน ถ้โดนบ่อยให้มองเรื่องของกลยุทย์ว่าอาจจะstopแคบเกินไป แต่โดยปกติเทรดเดอร์ทุกคนเคยเจอหมด ต้องคิดว่า ณตอนที่ราคาลงมาเราไม่มีทางรู้ ว่ามันจะลงมาแล้วลากไปเลยก้ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นเราจะรู้สึกโชคดีมากที่ได้stopไม่กว้างมากเพราะเสียไม่มาก ในขณะเดียวกัน ถ้ามันstopแล้วเด้งให้คิดว่า มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ทุกคนเคยเจอ เป็นเรื่องปกติที่อาจจะขึ้นได้ ควบคุมจิตใจตัวเองให้ไม่ไปไล่ราคาก้พอ