1.การที่เรากำไรนั่นหมายความว่าเราเทรดได้ดีรึป่าว?
ไม่เสมอไป กำไรกับขาดทุนไม่ได้เกี่ยวกับการที่คุณเทรดได้ดีเสมอไป สมมุติผมหลับตาซื้อหุ้นในวันที่ตลาดขึ้น ยังไงคุณก็กำไร แต่เป็นกำไรที่ไม่ได้เกิดมาจากความเข้าใจ ท้ายที่สุดคุณก็จะเสียเงินกลับไป ในทางกลับกัน ต่อให้คุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และเก่งมากๆ การที่คุณขาดทุนในบางไม้ ไม่ได้หมายความว่าคุณทำอะไรผิด คุณอาจจะเทรดได้ดีแล้วเพราะการเทรดมันคือเกมส์ของความน่าจะเป็น
2.ทำไมเราเทรดdemoแล้วกำไรแต่เทรดจริงกลับขาดทุน?
หลายคนคงถามคำถามนี้ในช่วงแรก มันมีอยู่2ปัจจัยหลักๆคือ สภาวะตลาดที่เปลี่ยนไปและ ใจที่เปลี่ยนไปของคุณเวลาเทรดเงินปลอมกับพอร์ตจริง การทดลองเทรดdemoเป็นการจำลองเทรดเฉพาะในสภาวะเดียวตลาดมันdynamicมันไม่ได้ตายตัว อันที่2และเป็นประเด็นหลักคือ วินัยคุณไม่ดีเหมือนตอนเทรดdemoเวลาเงินปลอมใจเรานิ่ง ไม่มีการโลภความกลัวอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
3.คนที่กำไรมากกว่าคือคนที่เก่งกว่ารึป่าว?
ไม่ใช่เสมอไป เพราะจริงๆแล้วกำไรเยอะน้อยไม่สำคัญเท่ากับการยืนระยะในตลาดได้นาน คนที่ขับรถได้เร็วกว่าจากเบตงไปเชียงรายอาจจะถึงไวกว่า แต่ถ้าคนที่ขับเร็วสุดขับอีกสิบรอบก็อาจจะเป็นคนที่ตายก่อน อีกนัยยะนึงการที่คนที่กำไรมากกว่าเป็นเพราะ1พอร์ต ใหญ่กว่า และ2 ใช้ความเสี่ยงมากกว่า (ถึงแม้ในบางสภาวะจะมีโอกาสที่เสี่ยงต่ำมากๆและผลตอบแทนสูง)
4.เรียนจากคนอื่นกูรูเก่งๆทำให้เราเทรดเก่งขึ้นรึป่าว?
สิ่งที่เรียนและสอนกันได้คือทฤษฎี เหมือนเวลาเราเรียนขับรถ ต่อให้คุณเรียนทฤษฎีขับรถหรือว่ายน้ำสักสามเดือนแต่ไม่เคยขับ คุณก็ไม่มีวันขับเป็น การเรียนทำให้เราเก่งในภาคทฤษฎี ต่อให้โค้ชมาบอกว่าอย่าovertrade ถ้าคุณไม่เคยโดนโทษของมัน คุณก็จะไม่เข้าใจ การเทรดจริงมันเล่นกับอารมณ์เราเยอะเทรดเดอร์ที่เก่งทุกคนไม่ใช่ทุกคนจะเป็นนักกลยุทย์ที่เก่งแต่ทุกคนเป็นนักเข้าใจอารมณ์ตัวเองที่เก่งมากเพราะฉะนั้นอยากเก่งขึ้น10%คือการเรียน อีก90%คือลงสนามจริงและฝึกฝน แต่การเรียนทำให้เราย่นระยะเวลาความสำเร็จขึ้นได้จริงถ้าเราเรียนรู้จากข้อผิดพลาดคนอื่นและไม่เดินตาม
5.อยากรวยต้องมาเล่นหุ้น?
จริงครึ่งนึง เพราะอยากจนก็ต้องมาเล่นหุ้น ในตลาดมันมีดาบสองคม มันมีตั้งแต่คนที่รวยมากจนคนที่หมดตัวก็เยอะ มีตั้งแต่คนที่สร้างตัวได้ตั้งแต่ไม่กี่ปีกับคนที่เอาเงินทั้งชีวิตมาละลายใน2เดือน ตลาดหุ้นก็เหมือนปืน ใช้เป็นก็เกิดประโยชน์ใช้ไม่เป็นก็เกิดโทษมหาศาล เพราะฉะนั้นเวลาใครบอกเล่นหุ้นแล้วรวยเค้าลืมบอกคุณอย่างนึงคือ เล่นหุ้นแล้วรวย (แต่ต้องโครตสุดและตั้งใจถึงจะรวย) ไม่ได้ต่างจากการรวยในงานอื่นๆ
6.กลยุทย์ต้องเทพถึงจะกำไรดี?อะไรคือกลยุทย์ที่เทพ?
เราต้องตั้งโจทย์ก่อนว่า กลยุทย์แต่ละกลยุทย์มันคิดมาจากอะไร มันคิดมาจาก
1.แพทเทินเดิมๆซ้ำๆ
2.การสร้างเงื่อนไขบนสภาวะต่างๆจากการสังเกตคนที่ใช้moving average ก้สร้างมาจากเงื่อนไขของตลาดว่าถ้าค่าเฉลี่ยราคาสูงมากกว่าวันก่อนหน้าเรื่อยราคาก็ยังจะขึ้น กลยุทย์มันสร้างมาจากสถิติความน่าจะเป็นในอดีต ก่อนจะเข้าใจกลยุทย์เราต้องเข้าใจแก่นและกลไกของตลาดนั้นๆ แนว โน้ม ว่าราคามันเคลื่อนที่มาจากปัจจัยอะไรบ้างก่อนและค่อยเอาเครื่องมือมาเป็นตัวช่วย ไม่ใช่เอาเป็นตัวหลัก เทรดเดอร์ที่เก่งคือคนที่เข้าใจbasicดีมากและนำมาประยุกต์ใช้ในแต่ละสถานะการณ์ได้เก่ง
7.ในวงการเทรดความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น?
ก็อาจจะจริงถ้าคุณมีเงินไม่จำกัด คุณอาจจะมาคลิ้กและเข้าใจตอนที่คุณเสียเงินไปแล้ว50ล้าน worksmart is important than work hard ด้วยความที่ทุกคนเข้ามาในตลาดแบบมีเงินจำกัด การพยายามสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้แค่เสียเวลาแต่เสียเงินและอาจจะต้อ งรออีกหลายปี เพราะฉะนั้นช่วงแรกถ้าเงินมันจำกัด ทำยังไงเราถึงชื้อประสบการณ์ได้นานที่สุด นั่นก็คือการเทรดให้น้อยและอยู่ในตลาดให้นานที่สุด ไม่กำไรไม่เป็นไร เงินอย่าหายเยอะเป็นพอ
8.อ่านบทความนี้แล้วจะทำ ให้เราเทรดเก่งขึ้น?
ไม่จริงทั้งหมด คุณเคยได้ยินเรื่องเล่านี้ไหม ที่ชั่งซ่อมเครื่องบินซ่อมซ่อมเครื่องบินภายใน5นาทีแล้วคิดเงินหลายล้านบาทโดยให้เหตุผลว่าที่แพงเพราะ เค้ารู้ว่าต้องซ่อมอะไรโดยที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ การจะเทรดเก่งมันคือสกิล ทักษะ ขึ้นชื่อว่าทักษะมันต้องฝึกฝน แต่การที่คุณอ่านเยอะและนำมาคิดวิเคราะห์มันทำให้เรามีโอกาสถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าคนอื่นเพราะเราสามารถรู้ว่าสิ่งนี้เราทำถูก เราทำผิดจะได้ไม่ทำ ไม่เสียเวลา การที่เราไม่รู้อะไรเลยมันก็เหมือนเรางมเข็มลองผิดๆถูกๆ การอ่านเปรียบเสมือนเข็มทิศ แต่การฝึกฝนจะทำให้คุณเป็นคนที่บังคับเรือชำนาญ ความรู้กับการฝึกฝนต้องไปควบคู่กัน อ่านแล้วนำไปเปลี่ยนสักอย่างดีว่าอ่านเล่นๆแล้วไม่ได้เอาไปปรับใช้